วันพุธที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2558

ค่า Hba1c เกี่ยวอะไรกับเบาหวาน ??

Hba1c เกี่ยวอะไรกับเบาหวาน ?? 
ค่าที่ควรรู้ เพื่อดูแลห่างไกล 
จากเบาหวาน ??
++++++++++++++


ตรวจสุขภาพเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน 

การตรวจสิ่งเหล่านี้เพิ่ม 
ทำให้ดูแลเบาหวานและป้องกันโรคแทรกซ้อนดีขึ้น

ฮีโมโกลบิน เอ วัน ซี ( Hemoglobin A1C ; Hb A1C ) 
เป็นการตรวจเพื่อดูค่าเฉลี่ยน้ำตาลในช่วง 2 – 3 เดือน
ก่อนตรวจว่าคุมได้ดีเพียงใด

Hemoglobin เป็นสารในเม็ดเลือดแดงที่มีหน้าที่พาออกซิเจนไปส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่ออยู่ในร่างกาย เมื่ออยู่ในกระแสเลือดจะมีส่วนของฮีโมโกลบินที่มีน้ำตาลมาเกาะเรียกว่า Hb A1C ค่า Hb A1C จะสูงถ้าน้ำตาลในเลือดสูงอยู่ตลอด และจะบอกถึงค่าเฉลี่ยของน้ำตาลในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากเม็ดเลือดแดงมีอายุเพียงประมาณ 120 วัน

จากการศึกษาพบว่า ถ้าคุมเบาหวานให้ดีลด HbA1C ลง 1% 
จะลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนของ ตา ไต เส้นประสาท 
ลงได้ 35% ลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้ 14% 
และลดอัตราตายที่เกี่ยวกับโรคเบาหวานได้ 21%

ควรตรวจ HbA1C ปีละ 1-4 ครั้ง เพื่อประเมินผลการควบคุม
เบาหวาน โดยถือว่าการควบคุมเบาหวานที่ดี 
ควรมีระดับ Hb A1C ไม่เกิน 7% และจะดีมาก
ถ้าคุมให้ลดได้ถึงน้อยกว่า6%

ไต อาจประเมินปีละ 1 – 2 ครั้ง 
โดยเฉพาะถ้าเป็นเบาหวานมานานเกิน 5 ปี 
โดยตรวจพิเศษจากปัสสาวะ (URINE MICROALBUMIN) 
ซึ่งจะเป็นตัวบอกเหตุได้เร็วที่สุดถ้าเกิดปัญหาแทรกซ้อนที่ไต ทำให้ป้องกันปัญหาลุกลามได้แต่เนิ่นๆ 
การตรวจเลือดเพื่อประเมินการทำงานของไตปีละครั้ง 
และการพบแพทย์โรคไตก็อาจจะจำเป็นในบางกรณี

ตา ผู้ป่วยเบาหวานมีโอกาสเกิดโรคที่ตาง่ายกว่าผู้ป่วยที่ไม่เป็นเบาหวาน เช่น ต้อกระจก กระจกตาถลอก 
และที่สำคัญ คือ เบาหวานเข้าจอประสาทตา
เป็นสาเหตุสำคัญของตาบอด 

ผู้ป่วยเบาหวานจึงควรพบจักษุแพทย์ อย่างน้อยปีละครั้ง 
เพื่อขยายม่านตา ตรวจจอประสาทตาโดยละเอียด

การรักษาด้วยเลเซอร์ เมื่อพบความผิดปกติที่สำคัญ
จะลดการสูญเสียการมองเห็นได้มากกว่าครึ่ง

เท้า ผู้ป่วยเบาหวานเกิดแผลที่เท้า 15% ตลอดชั่วชีวิต 
แผลอาจเกิดโดยไม่รู้สึกตัว และใช้เวลารักษานาน

นอกจากนี้โอกาสถูกตัดเท้าสูงกว่าผู้ป่วยที่ไม่เป็นเบาหวาน 
15-46 เท่า การตรวจเท้าอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง 
โดยแพทย์ที่ชำนาญเพื่อประเมินความเสี่ยง 
จะทำให้ดูแลเท้าได้อย่างรอบคอบ 
ป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับเท้าได้มากกว่าครึ่ง

การตรวจสุขภาพเท้าประกอบด้วย

1. ประเมินผิวหนัง รอยช้ำและรูปร่างเท้า

2. ตรวจสอบประสาทสัมผัส

3. ตรวจหาจุดรับน้ำหนักที่เสี่ยงต่อการเกิดปัญหา

ระบบหลอดเลือด การตรวจความผิดปกติของหลอดเลือดขนาดใหญ่ โดยการใช้เครื่องวัด ABI (Ankle-Brachial Index) 
ช่วยบ่งชี้ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ อัมพาต

อัมพฤกษ์ ซึ่งเมื่อพบความผิดปกติ 
สามารถพิจารณาให้ยาเพื่อป้องกันและลดความเสี่ยง

ข้อบ่งชี้ในการตรวจวัด ABI

1. เป็นเบาหวานอายุมากกว่า 50 ปี

2. เป็นเบาหวานอายุน้อยกว่าหรือเท่ากับ 50 ปี ร่วมกับ

- เป็นเบาหวานนานเกิน 10 ปี

- สูบบุหรี่ ไขมันในเลือสูง ความดันโลหิตสูง

เป้าหมายที่ควรควบคุมให้ได้

1. FPG < 120 น้ำตาลตอนเช้าก่อนอาหาร
ควรต่ำกว่า 120 มก.%

2. HbA1C < 7 ค่าเฉลี่ยน้ำตาลสะสม (ตรวจทุก 3-6 เดือน) 
ควรน้อยกว่า 7% แสดงถึงว่าควบคุมเบาหวานได้ดี
เสมอต้นเสมอปลาย

3. CHOLESTEROL < 200 ; 
TRIGLYCERIDE < 150 ; 
HDL > 40 ; 
LDL < 100

ระดับไขมันในเลือด ควรดูแลให้
คอเลสเตอรอลน้อยกว่า 200 มก.% 
ไตรกลีเซอไรด์น้อยกว่า 150 มก.% 
ไขมันดี (เอชดีแอล) มากกว่า 40 มก.% 
และไขมันร้าย (แอลดีแอล) น้อยกว่า 100 มก.%

เพื่อลดโอกาสการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ
และเส้นเลือดสมองตีบ

4. BMI < 25 น้ำหนักตัวต้องไม่มากเกิน คือ BODY MASS INDEX น้อยกว่า 25 กิโลกรัม น้ำหนักตัวหารด้วยส่วนสูงเป็นเมตรยกกำลังสอง

5. BP < 130/80 mm. Hg ปกติความดันโลหิตสูงไม่ควรเกิน 140/90 mm. Hg ในผู้ป่วยเบาหวานพบว่า ถ้าต่ำกว่า 130/80 mm.Hg จะเกิดผลดีกว่า เพราะลดโอกาสเกิดไตเสื่อม

6. NO SMOKING บุหรี่มีผลเสียทุกมวนที่สูบ ทำให้เส้นเลือดหัวใจสมองเสื่อมเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยเบาหวานต้องไม่สูบบุหรี่

เป้าหมายที่ควรควบคุมให้ได้

1. FPG < 120

2. HbA1C < 7

3. CHOLESTEROL < 200 ; 
TRIGLYCERIDE < 150 ; 
HDL > 40 ; LDL < 100

4. BMI < 25

5. ความดันโลหิต < 130/80 mm. Hg

6. NO SMOKING

เครดิตจาก bangkokhealth

UMI ดูแลลึกถึง Hba1C ศึกษาเพิ่มเติมได้ http://bit.ly/agel-umi-baowan

==============
ไม่อยากทานยาเบาหวานตลอดชีวิต
ต้องลดและดูแลน้ำตาลสะสมให้ลดลง

ดูแลเองมานานไม่ลดลงสักที
ปรึกษา ได้ที่

ผู้เชี่ยวชาญ คุณจอยริน

โทร 062-636-9495 


Line : @gelsociety


สั่งซื้อ ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ คุณจอยริน

คลิ๊กได้ที่ลิงค์เพื่อแอดไลน์อัตโนมัติเลยค่ะ http://bit.ly/gelsociety


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น